ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา :

     โครงการชิ้นนี้จัดทำขึ้นมาเนื่องจากในขณะที่มีคนใช้ห้อง มีการเปิดระบบไฟฟ้าใช้ ทั้งเครื่องปรับอากาศและหลอดไฟ แต่พอผู้ใช้ห้องออกจากห้องหมดแล้วจะทำอย่างไรให้ระบบไฟฟ้าในห้องนั้นปิดโดยอัตโนมัติ โดยสร้างวงจรนับคนเข้าห้องและจำนวนคนออกจากห้องเพื่อหาจำนวนผู้ที่กำลังใช้ห้องอยู่ในเวลานั้น ถ้าไม่มีคนอยู่ในห้องนั้นแล้ว ให้ระบบตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ                

ความมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ของการศึกษา :

1.นับคนเข้าออกห้องเเละเเสดงจำนวนคนในห้อง

2.เปิดปิดระบบไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อมีคนอยู๋ในห้องหรือไม่มีคนอยู่ในห้อง

ทฤษฎีหรือแนวความคิดที่ใช้ในการค้นคว้าหรือการทำโครงการ :

 สัญญาณ Output ออกขาNc เเละขาคอมเป็นGround วงจรใช้ไฟเลี้ยง 9V ทั้งภาครับเเละภาคส่ง

สัญญาณOutput จากตัวรับเข้าInput ขา A0 เป็นขาเข้าเเละInput ขาออกเป็นA1  ใช้โปรเเกรม c compiler ในการเขียน

ขั้นตอนการศึกษา :

1.ศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของเซนเซอร์อินฟราเรด

2.ศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโปรเเกรมภาษาซี

3.ศึกษาเกี่ยวกับโปรเเกรมจำลองวงจร

เซ็นเซอร์อินฟาเรด :

ภาพ : http://www.kit4diy.com/images/FK511b.jpg

Infrared คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่อยู่ในช่วง 1011 – 1014 เฮิรตซ์ หรือความยาวคลื่น 10-3 – 10-6 เมตร เรียกว่า รังสีอินฟราเรด หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คลื่นความถี่สั้น (Millimeter waves)ซึ่งจะมีย่านความถี่คาบเกี่ยวกับย่านความถี่ของคลื่นไมโครเวฟอยู่บ้างวัตถุร้อนจะแผ่รังสีอินฟราเรดที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่า 10-4 เมตรออกมา ประสาทสัมผัสทางผิวหนังของมนุษย์สามารถรับรังสีอินฟราเรด 

หลักการทำงานของเซนเซอร์อินฟราเรด :

หลักการของเครื่องฉายเสป็คตรัมใช้หลักการเลี้ยวเบนของคลื่นแสง โดยเมื่อแสงผ่านDiffraction Grating จะเลี้ยวเบนออกามความยาวคลื่นที่แตกต่างกันจึงจะได้ออกมาเป็นแถบเสป็คตรัม ต่างจาการใช้ปริซึมซึ่งจะใช้หลักการหักเหของแสงในการสร้างแถบเสป็คตรัมส่วนอินฟราเรดเซนเซอร์ ใช้หลักการ PhotoDioadที่ไวต่อช่วงความยาวคลื่นในย่านของ อินฟราเรด (Infrared) โดยสามารถตรวจวัดได้ตลอดช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็นจนถึงย่าน อินฟราเรด (Infrared) แต่จะไวต่อ อินฟราเรด (Infrared) มากที่สุด

ไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) :

ภาพ : http://www.mvesupply.com/image/data/mvesupply/Services-ED-Microcontroller.png

              เป็นอุปกรณ์ไอซี (IC: Integrated Circuit) ที่สามารถโปรแกรมการทำงานได้ซับซ้อน สามารถรับข้อมูลในรูปสัญญาณดิจิตอลเข้าไปทำการประมวลผลแล้วส่งผลลัพธ์ข้อมูลดิจิตอลออกมาเพื่อนำไปใช้งานตามที่ต้องการได้

ไมโครคอนโทรลเลอร์ภายในชิพจะมีหน่วยความจำ, Port อยู่ในชิพเพียงตัวเดียวซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ชิพเดี่ยว ไมโครคอนโทรลเลอร์เป็นไมโครโพรเซสเซอร์ชนิดหนึ่ง   เช่นเดียวกับหน่วยประมวลผลกลาง (CPU: Central Processing Unit) ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ แต่ได้รับการพัฒนาแยกออกมาภายหลังเพื่อนำไปใช้ในวงจรทางด้านงานควบคุม คือ แทนที่ในการใช้งานจะต้องต่อวงจรภายนอกต่าง ๆ เพิ่มเติมเช่นเดียวกับไมโครโปรเซสเซอร์ ก็จะทำการรวมวงจรที่จำเป็น เช่น หน่วยความจำ, ส่วนอินพุท/เอาท์พุท บางส่วนเข้าไปในตัว ไอซีเดียวกัน และเพิ่มวงจรบางอย่างเข้าไปด้วยเพื่อให้มีความสามารถเหมาะสมกับการใช้ในงานควบคุม เช่น วงจรตั้งเวลา, วงจรการสื่อสารอนุกรม วงจรแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอล เป็นต้น สรุปคือ

          Microcontroller = Microprocessor + Memory + I/O

ไมโครคอนโทรลเลอร์สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยมักจะเป็นการนำไปใช้ฝังในระบบของอุปกรณ์อื่น ๆ (Embeded Systems) เพื่อใช้ควบคุมการทำงานบางอย่าง เช่น ใช้ในรถยนต์, เตาอบไมโครเวฟ, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องซักผ้าอัตโนมัติ เป็นต้น เพราะว่าไมโครคอนโทรลเลอร์มีข้อดีเหมาะสมต่อการใช้ในงานควบคุมหลายประการ เช่น

-ชิพไอซีและระบบที่ได้มีขนาดเล็ก

-ระบบที่ได้มีราคาถูกกว่าการใช้ชิพไมโครโพรเซสเซอร์

-วงจรที่ได้จะมีความซับซ้อนน้อย ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในการต่อวงจร

-มีคุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับงานควบคุมโดยเฉพาะซึ่งใช้งานได้ง่าย

-ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาระบบได้

ไมโครคอนโทรลเลอร์มีหลายยี่ห้อ หลายตระกูล และหลายเบอร์ด้วยกัน ซึ่งแต่ละเบอร์ก็จะมีโครงสร้างภายในและความสามารถในการทำงานที่แตกต่างกันทำให้เลือกใช้กับงานได้อย่างเหมาะสม